ราคาหุ้นของ Visa, Mastercard และ American Express ร่วงลงอย่างหนักหลังจากมีรายงานจาก Wall Street Journal ว่าบรรดาร้านค้ารายใหญ่กำลังพิจารณาใช้ stablecoin เพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมจากระบบบัตรเครดิตแบบดั้งเดิม โดย Visa ลดลง 5.4%, Mastercard ร่วง 4.6% และ American Express ลดลง 2% ขณะเดียวกันผู้ให้บริการชำระเงินรายอื่น เช่น Capital One, PayPal และ Block ก็เผชิญกับแรงกดดันเช่นกัน หุ้นของพวกเขาต่างลดลงในระดับหนึ่ง
รายงานระบุว่าบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่อย่าง Walmart และ Amazon รวมถึงบริษัทท่องเที่ยวอย่าง Expedia และสายการบินหลายแห่ง ได้มีการหารือเกี่ยวกับการออก stablecoin ของตนเองในสหรัฐฯ เพื่อประหยัดต้นทุนจากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่แต่ละปีมีมูลค่ามหาศาล Stablecoin ซึ่งถูกออกแบบมาให้มีมูลค่าเทียบเท่าเงินสกุลรัฐ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ และได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง เช่น พันธบัตรรัฐบาล ปัจจุบันถูกใช้ในวงการคริปโตเป็นหลัก แต่กำลังถูกพิจารณานำมาใช้กับการซื้อขายสินค้าและบริการในชีวิตประจำวัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเครือข่ายการชำระเงินดั้งเดิมอย่างมีนัยสำคัญ
การตัดสินใจขั้นสุดท้ายของผู้ค้าปลีกขึ้นอยู่กับการผ่านร่างกฎหมาย Genius Act ที่จะกำหนดกรอบกำกับดูแลการใช้ stablecoin ซึ่งขณะนี้ผ่านขั้นตอนเบื้องต้นแล้ว แต่ยังต้องได้รับความเห็นชอบจากทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร หากผู้ค้าปลีกสามารถออกสกุลเงินดิจิทัลของตนเองได้สำเร็จ ระบบการชำระเงินแบบดั้งเดิมที่พึ่งพารายได้จากค่าธรรมเนียมอาจถูกสั่นคลอนอย่างหนักในอนาคต
ที่มา : Investing
Walmart และ Amazon จ่อออก stablecoin เลี่ยงค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต ฉุดหุ้น Visa, Mastercard ร่วง หาก Genius Act ผ่าน
รายงานระบุว่าบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่อย่าง Walmart และ Amazon รวมถึงบริษัทท่องเที่ยวอย่าง Expedia และสายการบินหลายแห่ง ได้มีการหารือเกี่ยวกับการออก stablecoin ของตนเองในสหรัฐฯ เพื่อประหยัดต้นทุนจากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่แต่ละปีมีมูลค่ามหาศาล Stablecoin ซึ่งถูกออกแบบมาให้มีมูลค่าเทียบเท่าเงินสกุลรัฐ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ และได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง เช่น พันธบัตรรัฐบาล ปัจจุบันถูกใช้ในวงการคริปโตเป็นหลัก แต่กำลังถูกพิจารณานำมาใช้กับการซื้อขายสินค้าและบริการในชีวิตประจำวัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเครือข่ายการชำระเงินดั้งเดิมอย่างมีนัยสำคัญ
การตัดสินใจขั้นสุดท้ายของผู้ค้าปลีกขึ้นอยู่กับการผ่านร่างกฎหมาย Genius Act ที่จะกำหนดกรอบกำกับดูแลการใช้ stablecoin ซึ่งขณะนี้ผ่านขั้นตอนเบื้องต้นแล้ว แต่ยังต้องได้รับความเห็นชอบจากทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร หากผู้ค้าปลีกสามารถออกสกุลเงินดิจิทัลของตนเองได้สำเร็จ ระบบการชำระเงินแบบดั้งเดิมที่พึ่งพารายได้จากค่าธรรมเนียมอาจถูกสั่นคลอนอย่างหนักในอนาคต
ที่มา : Investing